ปัจจุบันแม่ท้องหลายคนยังคงออกไปทำงานนอกบ้าน แม้ว่าจะตั้งครรภ์ก็ตาม แม่ท้องบางคนอาจทำงานหนักจนไม่มีเวลาพักผ่อน ซึ่งหากคุณแม่ไม่มีเวลาพักผ่อนอย่างเพียงพอ ก็อาจส่งผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์ได้ วันนี้ Mama Story จะพามาดูกันว่า คนท้องทำงานหนัก อันตรายไหม ลูกจะเป็นอะไรหรือเปล่า และจะมีวิธีรับมือเมื่อต้องทำงานหนักอย่างไรบ้าง พร้อมแล้ว ไปดูกันค่ะ
แม่ท้องทำงานต้องระวังเรื่องอะไร
เมื่อคุณแม่ต้องทำงานประจำ อาจจำเป็นต้องระมัดระวังในบางเรื่อง เพื่อสุขภาพของตัวคุณแม่เอง และลูกน้อยในครรภ์ เรามาดูกันว่าแม่ท้องทำงานต้องระวังเรื่องอะไรบ้าง
1. การทำงานหนักเกินไป
เวลาที่คุณแม่ตั้งครรภ์อาจลืมไปว่าตัวเองท้องอยู่ ทำให้คุณแม่บางคนทำงานหนักเหมือนช่วงก่อนท้อง ซึ่งเมื่อคุณแม่ทำงานหนักจนเกินไป ก็อาจทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียได้ง่าย ดังนั้นคุณแม่จึงควรประเมินตัวเองว่าทำงานหนักไปหรือเปล่า และมีความเครียดหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ความเครียดส่งผลกระทบต่อลูกในท้อง ทางที่ดีคุณแม่ควรขอลดงาน หรือเปลี่ยนงานชั่วคราวในระหว่างตั้งครรภ์จะดีกว่า
2. การทำงานแบบเป็นกะ
หากคุณแม่ทำงานเป็นกะ ก็จะส่งผลให้นอนหลับพักผ่อนไม่เป็นเวลา ยิ่งหากตั้งครรภ์อยู่นั้น จำเป็นต้องได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ โดยปกติแล้วร่างกายของคุณแม่จะหลั่งโกรทฮอร์โมนมามากกว่าปกติในช่วงเวลา 22.00 – 02.00 น. ดังนั้นคุณแม่จึงควรขอเปลี่ยนกะมาทำงานในช่วงกลางวันก่อน เพื่อจะได้นอนหลับพักผ่อนในตอนกลางคืนอย่างเต็มที่
3. การทำงานแบบนั่งโต๊ะ
คุณแม่ที่ต้องทำงานแบบนั่งโต๊ะ จำเป็นที่จะต้องใช้สายตา และความคิดไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นงานบัญชี งานเขียน หรืองานพิมพ์ที่ต้องก้มหน้าก้มตาอยู่ตลอดเวลา หากคุณแม่โฟกัสกับงานมากเกินไป ก็อาจทำให้เกิดความเครียด และอาการปวดเมื่อยตามมาได้ เพราะฉะนั้น คุณแม่จึงควรหยุดพักผ่อนเป็นระยะ ๆ เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน
4. การทำงานในที่มลพิษ
สำหรับที่คุณแม่ที่จำเป็นต้องทำงานในสถานที่ที่มีมลพิษ ควรหยุดทำงานไปก่อนเลยค่ะ เพราะหากคุณแม่ต้องไปทำงานในสถานที่เหล่านี้ทุกวัน ก็อาจส่งผลกระทบต่อลูกในครรภ์โดยตรง ยิ่งในช่วงไตรมาสแรก คุณแม่ควรดูแลลูกน้อยเป็นอย่างดี และควรหลีกเลี่ยงฝุ่นควันต่าง ๆ โดยเฉพาะควันบุหรี่ ควันไฟ และควันรถ เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้
5. การทำงานบ้านบางอย่าง
คุณแม่อาจต้องระมัดระวังการทำงานบ้านบางอย่างเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการยกของหนัก การดูดฝุ่น และการทำงานสะอาดที่สูง เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายต่อตัวคุณแม่ และลูกในครรภ์ได้ เนื่องจากเชื้อโรคต่าง ๆ อาจเป็นอันตรายแก่คุณแม่ เพราะในช่วงนี้ร่างกายจะมีภูมิต้านทานที่ต่ำลง จึงควรหลีกเลี่ยงการความสะอาดเหล่านี้ไปก่อน หรือให้ผู้อื่นเป็นคนทำจะดีกว่า
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องเครียด ร้องไห้ จะเป็นอะไรไหม? แม่ท้องเครียดมากทำไงดี?
คนท้องทำงานหนักรับมืออย่างไร
แม่ท้องที่ต้องทำงานหนัก โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะการทำงานหนัก และพักผ่อนน้อยอาจส่งผลให้เกิดการแท้งได้ ดังนั้นคุณแม่จึงควรรู้จักวิธีรับมือเมื่อต้องทำงานหนัก เพื่อป้องกันการเสี่ยงแท้ง และช่วยให้ลูกในครรภ์แข็งแรง
1. พยายามไม่ทำงานหนัก
ในช่วงตั้งครรภ์คุณแม่อาจมีอาการคนท้องต่าง ๆ ทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งอาจส่งผลต่อภูมิคุ้มกันของลูกในท้องได้ ดังนั้นคุณแม่จึงควรนอนหลับพักผ่อนให้ได้ 8-9 ชั่วโมงต่อวัน และหาเวลางีบพักผ่อนในช่วงกลางวันด้วยบ่อย ๆ นอกจากนี้ คุณแม่ไม่ควรมีอาการเครียด และวิตกกังวล เพราะอาจส่งผลให้เกิดการเสี่ยงแท้ง เพราะฉะนั้นคุณแม่อย่าลืมหากิจกรรมผ่อนคลายทำ เช่น การดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ และออกกำลังกายด้วยนะคะ
2. หลีกเลี่ยงการยกของหนัก
เมื่อตั้งครรภ์แล้ว คุณแม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการยกของหนักเลยนะคะ เพราะอาจส่งผลให้เกิดอาการปวดหลัง และเสี่ยงต่อการแท้งลูกได้ หากคุณแม่จำเป็นต้องยกจริง ๆ ควรใช้วิธีงอเข่าเหยียดหลังตรง และปล่อยน้ำหนักไว้ที่ต้นขา ก็ช่วยลดโอกาสปวดหลังได้ รวมทั้งช่วยให้ลูกในครรภ์ปลอดภัยอีกด้วย
3. ไม่ใส่รองเท้าส้นสูง
หากคุณแม่ใส่ส้นสูงตอนท้อง ก็จะเพิ่มความเสี่ยงให้หกล้มได้ง่าย เนื่องจากการใส่รองเท้าส้นสูงจะทำให้น้ำหนักถ่วงไปด้านหน้า เหมือนท้องของคุณแม่ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อลูกในครรภ์ และทำให้เกิดอาการปวดขา ทางที่ดีคุณแม่ควรใส่รองเท้าที่กระชับ ใส่สบาย รวมถึงควรเลือกเสื้อผ้าที่ไม่รัดรูป ก็จะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
4. ไม่นั่งนาน ๆ หรือยืนนาน ๆ
เมื่อคุณแม่ต้องทำงาน ก็ควรหยุดพักขยับตัวบ่อย ๆ และควรลุกขึ้นเดินยืดเส้นยืดสายอยู่เสมอ รวมทั้งควรนั่งเก้าอี้ที่มีพนักพิงประมาณ 110 – 120 องศา และหาเบาะเสริมให้ก้นชิดพนักเก้าอี้ ก็จะช่วยให้คุณแม่นั่งทำงานสบายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ หากคุณแม่มีอาการเท้าบวม อย่าลืมหากล่อง หรือเก้าอี้ตัวเล็ก ๆ มารอง หนุนขาให้สูงนะคะ
5. ไม่เดินบ่อย
ในช่วงตั้งครรภ์คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการเดินบ่อย ๆ ออกกำลังกายหนัก ๆ หรือทำงานบ้าน รวมทั้งไม่ควรกระโดด และวิ่ง เพราะอาจเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดได้ นอกจากนี้ ยังอาจทำให้เกิดอาการปวดขา เท้าบวม และข้อเข่าเสื่อมตามมาอีก ทางที่ดีให้พยายามนั่ง หรือนอนพักผ่อนบ่อย ๆ นะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องนวดได้ไหม แม่ท้องอยากนวดจะเป็นอันตรายต่อลูกหรือเปล่า?
ข้อควรระวังเมื่อแม่ท้องต้องทำงานกลางคืน
สำหรับคุณแม่ท้องที่ต้องทำงานหนัก ทำงานเป็นกะ หรือทำงานโดยไม่มีเวลาพักผ่อน ก็อาจทำให้วงจรการใช้ชีวิตเปลี่ยนไป (Circadian Rhythm) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อร่างกาย และสมอง ดังต่อไปนี้
- รกเสื่อมเร็ว ทำให้เกิดการอักเสบในมดลูก และทำให้มดลูกบีบตัวเร็ว
- ร่างกาย และสมองจะมีฮอร์โมนที่เกี่ยวกับความเครียดหลั่งออกมามากขึ้น
- ร่างกายอ่อนเพลียง่าย ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ และหมดแรง
- สมองจะลดการหลั่งสารเมลาโทนินที่มีบทบาทในการควบคุมการนอน และส่งผลต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อยในครรภ์
เมื่อรู้แบบนี้แล้ว คุณแม่ก็ควรระมัดระวังในการทำงานมากขึ้น และควรหาเวลาพักผ่อนให้เพียงพอนะคะ เพื่อที่จะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์ หากคุณแม่จำเป็นต้องทำงานติดต่อกันจริง ๆ ก็อย่าลืมหาเวลายืดเส้นยืดสาย หรือทำกิจกรรมผ่อนคลายความเครียดบ้าง เพื่อที่จะช่วยให้ร่างกายพักผ่อนได้อย่างเพียงพอ และไม่ทำให้เกิดความเครียด
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เลือดกำเดาไหล ตอนท้องอันตรายไหม คนท้องเลือดกำเดาไหลทำไงดี?
คนท้องดื่มน้ำอัดลม ได้ไหม? ดื่มแล้วจะเป็นอันตรายต่อลูกในท้องอย่างไร
คนท้องฟังเพลง แล้วส่งผลดีต่อลูกในท้องอย่างไร? เพลงสำหรับคนท้อง